จู๋เน่า จากการฉีดสารแปลกปลอม เสี่ยงต่อภาวะโรคซึมเศร้า

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีผู้ชายจำนวนไม่น้อย ที่หลงเชื่อคำโฆษณาชวนเชื่อบนโลกออนไลน์ หรือแม้แต่คำแนะนำจากหมอกระเป๋า ว่าการฉีดสารแปลกปลอมเข้าในน้องชายจะช่วยเพิ่มขนาดและความมั่นใจแบบทันใจ

โดยไม่รู้เลยว่าผลลัพธ์ที่ได้อาจไม่ใช่แค่ผิดหวัง แต่คือการพังทั้งชีวิต นอกจากผลข้างเคียงทางร่างกายอย่างติดเชื้อ อักเสบ หรือทำให้ จู๋เน่า จนต้องผ่าตัดเอาอวัยวะบางส่วนออกแล้ว ผู้ชายหลายคนยังต้องเผชิญกับความทุกข์ใจ ความอับอาย และความรู้สึกผิดที่สะสมจนกลายเป็นภาวะโรคซึมเศร้าแบบไม่รู้ตัว

บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกถึงอันตรายของการฉีดสารแปลกปลอมเข้าไปในน้องชาย ผลกระทบที่ตามมาที่ไม่ใช่แค่จู๋เน่า แต่รวมถึงสภาพจิตใจที่ถูกทำลาย และแนวทางการเยียวยาทั้งร่างกายและจิตใจ เพื่อให้คุณหรือคนที่คุณรักได้ตระหนัก ก่อนจะตัดสินใจในสิ่งที่อาจย้อนกลับไปไม่ได้

อันตรายจากการฉีดสารแปลกปลอมเข้าสู่อวัยวะเพศชาย

ความพยายามในการเพิ่มขนาดน้องชายแบบเร่งด่วน มีผู้ชายจำนวนไม่น้อยเลือกใช้วิธีฉีดสารแปลกปลอม โดยเฉพาะจากแหล่งที่ไม่ปลอดภัย เช่น คลินิกเถื่อน หรือหมอกระเป๋า ซึ่งแม้จะดูเหมือนง่ายและรวดเร็ว แต่เบื้องหลังกลับเต็มไปด้วยความเสี่ยงร้ายแรงที่อาจเปลี่ยนชีวิตไปตลอดกาล

สารแปลกปลอมที่มักถูกนำมาฉีด

• พาราฟิน เป็นน้ำมันแร่ที่มักใช้ในอุตสาหกรรม ไม่ใช่สารที่ได้รับการรับรองให้ใช้กับร่างกาย
• ซิลิโคนเหลว แม้จะมีใช้ในทางการแพทย์บ้าง แต่ต้องอยู่ในรูปแบบที่ปลอดภัยและใช้โดยผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
• น้ำมันมะกอก น้ำมันพืช หรือวัสดุแปลกปลอมอื่นๆ บางรายใช้สารจากครัวเรือน ซึ่งไม่ได้ถูกออกแบบมาสำหรับการใช้กับมนุษย์

ทำไมการฉีดสารแปลกปลอมจึงเป็นอันตราย

1. จะทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง เนื้อเยื่อแข็งเป็นก้อน และเจ็บปวดตลอดเวลา
2. ทำให้เชื้อแบคทีเรียเข้าสู่ร่างกาย ก่อให้เกิดการติดเชื้อขั้นรุนแรง ถึงขั้นจู๋เน่า หรือเนื้อเยื่อตาย
3. สารบางชนิดกระจายตัวผิดตำแหน่ง ทำให้รูปร่างน้องชายผิดปกติ ผิวหนังแข็งเป็นไต หรือเกิดพังผืดที่แก้ไขได้ยาก
4. ในกรณีรุนแรง อาจต้องผ่าตัดเอาสารออก หรือตัดชิ้นเนื้อที่เน่าเสีย ซึ่งอาจกระทบต่อการแข็งตัว และการปัสสาวะ
5. การฉีดสารใดๆ เข้าร่างกายควรทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ในสถานพยาบาลที่ได้รับอนุญาต การใช้สารที่ไม่ได้รับรอง ถือเป็นการทำลายสุขภาพที่ร้ายแรง

ผลกระทบทางจิตใจกับความมั่นใจที่พังทลาย

• สูญเสียความเป็นชายในสายตาตัวเอง เมื่อมันเกิดปัญหา ก็เหมือนถูกพรากตัวตนไป
• ความอับอายและรู้สึกผิด หลายคนไม่กล้าบอกใคร เพราะกลัวถูกตัดสินว่าคิดผิด ทำให้รู้สึกโทษตัวเองอย่างหนัก
• เก็บตัว หลีกเลี่ยงความสัมพันธ์ ทำให้ผู้ชายหลายคนเลือกที่จะอยู่คนเดียว และจมอยู่กับความเครียดเรื้อรัง

ผลกระทบทางจิตใจกับความเสี่ยงภาวะโรคซึมเศร้า

• เบื่อหน่าย ไม่มีแรงจูงใจทำสิ่งใด
• นอนไม่หลับ หรือหลับมากเกินไป
• รู้สึกไร้ค่า ไม่มีความหมายในชีวิต
• ความคิดทำร้ายตัวเอง หรืออยากจบชีวิต

แนวทางการรักษาโดยวิธีผ่าตัดเอาสารแปลกปลอมออก

มี 2 วิธีหลักในการผ่าตัดนำสารแปลกปลอมออก เหมาะเป็นทางเลือกในการตัดสินใจของผู้ชายที่กำลังประสบปัญหานี้

วิธีที่ 1 เหมาะสำหรับผู้ที่ฉีดสารแปลกปลอมมาน้อย

โดยแพทย์จะทำการวางยาสลบ หรือดมยาสลบก่อนผ่าตัด หลังจากนั้นจะใช้เทคนิคตัดผิวหนังส่วนปลายอวัยวะเพศ และคว้านเอาสารแปลกปลอมบริเวณโคนอวัยวะออกมาให้ได้เยอะที่สุด จากนั้นเย็บปิดแผล

วิธีที่ 2 เหมาะสำหรับผู้ที่ฉีดสารแปลกปลอมมามาก

โดยแพทย์จะทำการผ่าตัดผิวหนังออกทั้งหมด แล้วตัดตั้งแต่โคนอวัยวะเพศจนถึงปลาย จะสามารถนำเอาสารแปลกปลอมที่กระจายไปทั่วบริเวณอวัยวะเพศออกมาได้ทั้งหมด เป็นวิธีที่นำสารแปลกปลอมออก 100 % และสุดท้ายจะต้องเอาผิวหนังมาปิดแผลโดยใช้การปลูกถ่ายผิวหนังบริเวณ หน้าท้อง ต้นขา หรือผิวหนังบริเวณถุงอัณฑะ

แนวทางการรักษาแก้สารแปลกปลอม โดยวิธีการดูแลสุขภาพจิต

การรับคำปรึกษาทางจิตใจจากจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา เป็นขั้นตอนที่ไม่ควรมองข้าม ผู้ป่วยที่ผ่านเหตุการณ์กระทบจิตใจรุนแรง เช่น จู๋เน่า มักมีภาวะซึมเศร้า แพนิค หรือ PTSD (ภาวะเครียดหลังผ่านเหตุการณ์รุนแรง) การบำบัดทางจิต (Psychotherapy) เช่น CBT (การบำบัดความคิดและพฤติกรรม) ช่วยให้ผู้ป่วยรับมือกับความคิดด้านลบ ฟื้นฟูความมั่นใจ และกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ

การฉีดสารแปลกปลอมเข้าไปในน้องชายอาจดูเป็นทางลัดสู่ความมั่นใจ แต่แท้จริงแล้วคือกับดักที่เสี่ยงต่อทั้งร่างกายและจิตใจอย่างรุนแรง ผลที่ตามมาอาจไม่ใช่แค่ จู๋เน่า แต่รวมถึงการสูญเสียตัวตน ความมั่นใจ และคุณภาพชีวิตในระยะยาว การตัดสินใจรักษาอย่างถูกวิธีโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

ร่วมกับการดูแลสุขภาพจิตอย่างใกล้ชิด คือกุญแจสำคัญในการฟื้นฟูทั้งร่างกายและหัวใจให้กลับมาเข้มแข็งอีกครั้ง เพราะคุณค่าของความเป็นชายไม่ได้วัดกันที่ขนาดอย่างเดียว แต่วัดกันที่การใช้ชีวิตอย่างมีสติและมั่นใจในแบบของตัวเอง

Napasorn Nuanlaaong

See Full Bio