เทคนิคการแก้ไขและปรับรูปทรงหลังการถอดสารแปลกปลอมในอวัยวะเพศ

ขนาดของอวัยวะเพศที่เล็กเป็นปมด้อยของผู้ชายบางคนทำให้เกิดความกังวลใจใน เรื่องขนาดในวัยที่มีกิจกรรมทางเพศเป็นประจำโดยเฉพาะอย่างยิ่งการฉีดสารแปลกปลอมมักทำในช่วงแรกๆที่มีประสบการณ์ทางเพศ

เนื่องจากความเชื่อว่าขนาดของอวัยวะเพศมีผลต่อความสุขของเพศตรงข้าม ด้วยความคิดเพียงชั่ววูบแต่ผลตามมาเป็นปัญหาใหญ่ และเป็นปัญหาเรื้อรังไม่สามารถแก้ไขให้หายเป็นปกติได้เหมือนเดิมก่อนการฉีด

เทคนิคการผ่าตัด

การผ่าตัดขึ้นอยู่กับจุดมุ่งหมายที่ต้องการเอาสิ่งแปลกปลอมออกมากน้อยแค่ ไหนและขึ้นอยู่กับปริมาณสารที่ฉีดว่า ฉีดไว้มากแค่ไหนถ้าฉีดไว้มากก็มักมีปัญหาในการเลือกเทคนิคการผ่าตัดมากกว่า คนที่ฉีดไว้น้อย โดยในคนที่ฉีดไว้มากๆ จะต้องตัดผิวหนังออกทั้งหมดจะตัดบางส่วนไม่ได้

และถ้ามีสารที่ไหลไปในถุงอัณฑะก็จะมีปัญหาในการหาผิวหนังที่มาปิดแผลอีก เทคนิคที่ใช้ในการผ่าตัดอาจแบ่งเป็นเทคนิคการผ่าตัดสารแปลกปลอมออกจากอวัยวะ เพศและเทคนิคการปิดแผล

  • เทคนิคที่ 1 การตัดผิวหนังออกบางส่วนและตัดสาร แปลกปลอมที่อยู่ใต้ผิวหนังบางส่วน [PARITAL EXCISION] ในคนที่ฉีดสารแปลกปลอมไม่มากโดยฉีดบริเวณปลายหนังหุ้มเป็นส่วนใหญ่สามารถตัด ผิวหนังส่วนปลายและเข้าไปตัดที่สารแปลกปลอมได้ ผิวหนังที่โคนอวัยวะเพศได้ ลักษณะการผ่าตัดเหมือนกับการขลิบหนังหุ้มอวัยวะเพศและเข้าไปคว้านส่วนที่ เหลือใต้ผิวหนังบางส่วน
    เทคนิคนี้ใช้ได้เฉพาะกรณีที่ฉีดน้อยและไม่ไดฉีดในชั้นตื้นๆเท่านั้นถ้าทำ ได้ก็อาจเป็นเทคนิคที่ดีที่สุดเพราะไม่มีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างของผิวหนังไป จากเดิมมากและไม่ต้องเอาเนื้อเยื่อที่อื่นมาเติมแต่ในทางปฎิบัติมีคนจำนวน น้อยที่ใช้เทคนิคนี้ได้ เพราะมักจะฉีดมาในปริมาณที่มาก [รูปที่ 1] ข้อดีคือ รูปร่างหน้าตาหลังผ่าตัดที่ออกมาเหมือนอวัยวะเพศเดิม เพราะผิวหนังเป็นผิวหนังเดิมแต่ข้อเสีย คือ ถ้ายังมีสิ่งแปลกปลอมตกค้างอยู่อาจจะเกิดปัญหาเรื่องแผลภายหลังทำให้ต้องผ่า ตัดแก้ไขใหม่อีกรอบหนึ่งได้
  • เทคนิคที่ 2 การตัดผิวหนังออกทั้งหมด [TOTAL EXCISION] เป็นเทคนิคมาตรฐานโดยการตัดผิวหนังตั้งแต่โคนอวัยวะเพศจนถึงปลาย อวัยวะเพศออกหมด ส่วนของแผลที่เกิดถ้าจะต้องหาผิวหนังเข้ามาปิด วิธีการตัดออกทั้งหมดก็เป็นวิธีมาตรฐาน เพราะสารแปลกปลอมกระจายไปทั่วทุกชิ้นของผิวหนัง การตัดออกทั้งหมดเป็นวิธีการเดียวที่จะเอาสิ่งแปลกปลอมออกได้มากที่สุด ผิวหนังที่นำมาปิดใหม่ควรต้องเลือกผิวหนังที่ไม่มีสิ่งแปลกปลอมมากโดยที่ผิว หนังที่เปิดใหม่เป็นผิวหนังปกติ ก็จะมีความยืดหยุ่นกว่าเดิมทำให้แก้ปัญหาดังกล่าวได้ดีที่สุด เทคนิคนี้เป็นเทคนิคที่เป็นมาตรฐานเพราะแก้ปัญหาได้เบ็ดเสร็จแค่ต้องใช้เวลา ผ่าตัดนานและอาจต้องผ่าตัด 2 ครั้ง
    หลังการตัดผิวหนัง จะต้องหาผิวหนังเอามาปิดแผล

วิธีการนำผิวหนังที่มาใช้ปิดแผล

  1. การปลูกถ่ายผิวหนัง [GRAFT] ผิว หนังที่นำมาปลูกถ่ายอาจเป็นผิวหนังที่หน้าท้อง ต้นขา หรือขาหนีบ ถ้าใช้ผิวหนังไม่มาก ข้อดีในการใช้ผิวหนังแบบนี้คือ รูปร่างของผิงหนังเป็นผิวเรียบเหมือนอวัยวะเพศแต่เทคนิคนี้จะมีปัญหาของความ ยืดหยุ่นขณะที่แข็งตัวเพราะกราฟจะยืดขยายได้น้อย
  2. ใช้ผิวหนังจากถุงอัณฑะ [SCROTAL FLAB] เป็นเทคนิคที่ถือเป็นมาตรฐาน คือใช้ผิวหนังจากรูปอัณฑะมาปิด ข้อดีคือมีความยืดหยุ่นมากใช้งานได้ดีมากเพราะผิวหนัง บริเวณนี้สามารถยืดขยายได้มากไม่มีปัญหาเวลาแข็งตัว แต่ข้อเสียคือรูปร่างจะมีรอยย่นของถุงอัณฑะและมีขนขึ้นมาบริเวณผิวหนังที่มี ข้อแตกต่างจากอวัยวะเพศเดิมการผ่าตัดทำได้ 2 วิธี
    1. ทำครั้งเดียว [1 STAGE] คือ ตัดสิ่งแปลกปลอมออกแล้วปิดแผลเลย วิธีนี้มีความเสี่ยงเรื่องเนื้อตาย แต่ถ้าทำได้ก็จะประหยัดเวลาเพราะผ่าตัดครั้งเดียว
    2. ทำ 2 ครั้ง [2 STAGES] เป็น วิธีการมาตรฐานคือหลังจากตัดสิ่งแปลกปลอมและซุกอวัยวะเพศในถุงอัณฑะก่อน ระยะหนึ่ง และนัดมายกอวัยวะเพศออกจากถุงอัณฑะภายหลัง วิธีนี้เป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุดเพราะมีปัญหาเรื่องเนื้อตายน้อย แต่ต้องผ่าตัด 2 ครั้ง

เเก้สารเเปลกปลอม

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด

  • เตรียมหยุดงานอย่างน้อย 10 – 14 วัน เพราะแผลหายช้าอาจต้องลางาน 3 – 4 อาทิตย์
  • งดน้ำและอาหาร 6 – 8 ชม. ก่อนการผ่าตัด
  • งดยาต้านการอักเสบ [NSAID] เช่นแอสไพริน อาหารเสริมบางตัว ที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น กระเทียม น้ำมันปลา อย่างน้อย 2 อาทิตย์ ก่อนการผ่าตัด
  • กรณีที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ควรแจ้งให้แพทย์ทราบ
  • ทำความสะอาดและโกนขนอวัยวะเพศก่อนมาผ่าตัด
  • เตรียมกางเกงชั้นในหลวมๆสำหรับใส่หลังผ่าตัด ควรเลือกกางเกงในสีเข้ม เช่น ดำ น้ำเงิน น้ำตาล เพราะน้ำเหลืองจากแผลจะเลอะกางเกงในเห็นได้ชัด

เเก้สารเเปลกปลอม

เตรียมอุปกรณ์ทำแผล

  • น้ำเกลือล้างแผล
  • เบต้าดีน [ห้ามใช้ทิงเจอร์ไอโอดีน หรือแอลกอฮอลล์] C. ผ้าก๊อส
  • ไม้พันสำลี
  • พลาสเตอร์ปิดแผล
  • ก๊อสกันติดแผลอาจใช้ Sofa Tulle หรือ Ergotulle
  • ไปถึงโรงพยาบาลก่อนผ่าตัดประมาณ 4 – 5 ช.ม.
  • ควรตัดสินใจเลือกเทคนิคที่ใช้ก่อนวันผ่าตัด
  • อาบน้ำเช้าวันผ่าตัดเพราะจะอาบน้ำไม่ได้หลายวัน

เเก้สารเเปลกปลอม

ขั้นตอนการผ่าตัด

  • การผ่าตัดไม่ว่าจะใช้เทคนิคใดก็ทำโดยการดมยาสลบจึงต้องงดน้ำและอาหารอย่างน้อย 6 ช.ม. ก่อนการผ่าตัด
    ตัดผิวหนังส่วนที่ฉีดสารแปลกปลอมออก

    • ถ้าใช้เทคนิคที่ 1 สามารถเย็บปิดแผลได้เลย
    • ถ้าใช้เทคนิคที่ 2 ต้องตัดผิวหนังจนถึงโคนอวัยวะเพศ
    • ถ้าใช้เทคนิคที่ 2 เปิดแผลบริเวณถุงอัณฑะแล้วยกผิวหนังของถุงอัณฑะมาปิดแผลแล้วเย็บปิดแผลผิวหนังด้วยไหมละลาย

เเก้สารเเปลกปลอม

การดูแลหลังการผ่าตัด

  • ทำแผลวันละ 2 ครั้งเพราะมักมีน้ำเหลืองออกมากๆ
  • แผลหายช้าอาจให้พักที่โรงพยาบาล 2 วัน แล้วกลับบ้าน แต่ต้องทำแผลที่บ้านต่อทุกวัน
  • งดทำงานหนัก 10 – 20 วัน
  • งดร่วมเพศ 4 อาทิตย์
  • แผลอาจมีเลือดออกบ้างเป็นปกติถ้ามีเลือดออกมากให้รีบติดต่อแพทย์ทันที
  • อาจเกิดเนื้อตายบางตำแหน่งของขอบแผล อาจต้องตัดออกแล้วเย็บแผลใหม่ [ฉีดยาชา]
  • ถ้าทำเป็น 2 ระยะต้องนัดมาผ่าตัดใหม่อีกครั้ง หลังจากแผลหาย 2 – 3 เดือน
  • แพทย์จะนัดมาดูแผลทุกอาทิตย์จนกว่าแผลจะหาย

สรุป เทคนิคการแก้ไขและปรับรูปทรงหลังการถอดสารแปลกปลอมในอวัยวะเพศ

การฉีดสารแปลกปลอมมักทำโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์เพราะไม่ต้องผ่าตัดไม่มีแผลและ สารที่ฉีดสามารถหาซื้อได้ง่ายโดยทั่วไปในคนไทยนิยมฉีดน้ำมันมะกอกหรือเพนนิ ซิลินมากที่สุด น้ำมันมะกอกที่ขายในตลาดไม่ได้ผ่านการฆ่าเชื้อ เพราะไม่ได้ผลิตมาเพื่อฉีดเข้าไปในร่างกาย

ดังนั้นถ้าฉีดเข้าไปมากจะเกิดการติดเชื้อ แตกเป็นแผลที่อวัยวะเพศ หรือมีอาการบวมแดง โดยรอบอวัยวะเพศได้ ถ้าอาการอักเสบลุกลามไปทั่ว อาจมีผลให้มีเนื้อตายอย่างกว้างขวางในคนที่มีโรคประจำตัวอยู่แล้ว

เช่น โรคเบาหวาน อาจมีการอักเสบลุกลามมาก จนต้องตัดอวัยวะเพศได้ สำหรับการใช้เพนนิซิลิน มักมีปฎิกิริยาน้อยกว่าน้ำมันมะกอก ตัวยาเพนนิซิลีนมักรวมกันเป็นกลุ่มก้อน ทำให้สามารถผ่าตัดเอาออกได้ง่าย

เพื่อสุขภาพที่ดี สามารถปรึกษาผ่านช่องทาง LINE OA ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ เข้ามาติดต่อที่สาขา คลิกที่นี่เพื่อดูสาขาใกล้บ้านคุณ

author avatar
Napasorn Nuanlaaong

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *