โรคประจำตัวที่สัมพันธ์กับหย่อนสมรรถภาพทางเพศ

หย่อนสมรรถภาพทางเพศ

ปัญหาส่วนใหญ่ที่ผู้ชายพบเจอกัน คือ หย่อนสมรรถภาพทางเพศ (Erectile Dysfunction – ED) เป็นภาวะที่ผู้ชายไม่สามารถแข็งตัว หรือไม่สามารถคงการแข็งตัวไว้ได้จนเสร็จกิจทางเพศ ปัญหานี้ไม่ได้ส่งผลแค่ต่อความมั่นใจและชีวิตคู่เท่านั้น แต่ยังอาจเป็นสัญญาณเตือน ของโรคประจำตัวหลายชนิดที่ซ่อนอยู่

การเข้าใจว่าโรคประจำตัวใดสัมพันธ์กับ ED จึงสำคัญ เพราะช่วยให้ผู้ชายสามารถตรวจพบปัญหาสุขภาพได้เร็วขึ้น และเข้ารับการรักษาได้ทัน

ในบทความนี้จะพาคุณผู้ชายและผู้ที่สนใจไปทราบว่าโรคประจำตัวที่สัมพันธ์กับหย่อนสมรรถภาพทางเพศ มีโรคอะไรบ้าง  และการใช้ยาและผลข้างเคียงจากการรักษาโรคเรื้อรัง เป็นอย่างไร รวมถึงวิธีดูแลและป้องกัน ไปดูพร้อมๆ กันเลยครับ

นกเขาไม่ขัน

โรคประจำตัวที่สัมพันธ์กับหย่อนสมรรถภาพทางเพศ

1. เบาหวาน (Diabetes Mellitus)

โรคเบาหวานถือเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของ ED เนื่องจากน้ำตาลในเลือดสูงต่อเนื่องทำลายเส้นเลือดและเส้นประสาทที่ควบคุมการแข็งตัว

  • ผู้ชายที่เป็นเบาหวานมีโอกาสเกิด ED สูงกว่าคนทั่วไปถึง 2–3 เท่า
  • ความเสียหายต่อหลอดเลือดทำให้เลือดไหลเวียนเข้าสู่อวัยวะเพศได้ไม่ดี
  • ปลายประสาทเสื่อม ทำให้ความรู้สึกและการควบคุมลดลง

2. ความดันโลหิตสูง (Hypertension)

ความดันสูงทำให้หลอดเลือดแข็งและตีบ ส่งผลให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงอวัยวะเพศลดลง

  • ยาลดความดันบางชนิดยังมีผลข้างเคียงที่ทำให้การแข็งตัวลดลง
  • หากควบคุมความดันไม่ได้ อาการ ED มักเรื้อรังและรุนแรงขึ้น

3. โรคหัวใจและหลอดเลือด (Cardiovascular Disease)

ED มักถูกมองว่าเป็นหน้าต่างสู่สุขภาพหัวใจ เพราะหลอดเลือดอวัยวะเพศมีขนาดเล็ก หากมีการอุดตันหรือเสื่อมสภาพ จะเกิดอาการ ED ก่อนปัญหาหัวใจ

  • อาการ ED ระยะเริ่มต้นอาจเป็นสัญญาณเตือนโรคหลอดเลือดหัวใจ
  • ผู้ชายที่มี ED ควรตรวจสุขภาพหัวใจควบคู่ไปด้วย

4. ไขมันในเลือดสูง (Hyperlipidemia)

ไขมันเลว (LDL) ที่สูงเกินไปจะเกาะผนังหลอดเลือด ทำให้เกิดการอุดตันและแข็งตัว ส่งผลโดยตรงต่อสมรรถภาพเพศชาย

  • ลดการไหลเวียนเลือดไปยังอวัยวะเพศ
  • ทำให้ความแข็งตัวไม่เต็มที่หรือลดระยะเวลาในการคงการแข็งตัว

5. ภาวะฮอร์โมนผิดปกติ

โดยเฉพาะ ฮอร์โมนเพศชายต่ำ (Low Testosterone) ส่งผลให้ความต้องการทางเพศลดลง และทำให้เกิด ED ได้

  • ฮอร์โมนไทรอยด์ผิดปกติ (ทั้งสูงและต่ำ) ก็มีผลต่อการควบคุมสมรรถภาพเพศชาย
  • ภาวะอ้วนหรือเมตาบอลิกซินโดรมยังสัมพันธ์กับฮอร์โมนไม่สมดุล

6. โรคไตเรื้อรัง (Chronic Kidney Disease)

การทำงานของไตที่บกพร่องทำให้ร่างกายเสียสมดุลของสารเคมีและฮอร์โมน ส่งผลต่อระบบประสาทและการแข็งตัว

  • ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังมีอัตรา ED สูงถึง 50–70%
  • การฟอกไตก็อาจส่งผลให้สมรรถภาพลดลง

7. โรคประสาทและสมอง (Neurological Disorders)

การแข็งตัวต้องอาศัยการทำงานร่วมกันของสมอง เส้นประสาท และหลอดเลือด หากระบบประสาทผิดปกติ การแข็งตัวจะบกพร่องทันที

  • โรคพาร์กินสัน (Parkinson’s disease)
  • โรคเส้นประสาทเสื่อม (Peripheral neuropathy)
  • โรคเส้นเลือดสมอง (Stroke)

8. ภาวะซึมเศร้าและปัญหาสุขภาพจิต

ไม่เพียงแต่โรคทางกาย แต่โรคทางจิตใจก็เป็นตัวแปรสำคัญ

  • ผู้ป่วยซึมเศร้าและวิตกกังวลมีโอกาสเกิด ED สูงกว่าคนทั่วไป
  • ยาต้านซึมเศร้าบางชนิดอาจมีผลข้างเคียงทำให้สมรรถภาพลดลง

สมรรถภาพทางเพศเสื่อม

การใช้ยาและผลข้างเคียงจากการรักษาโรคเรื้อรัง

ผู้ป่วยหลายคนที่มีโรคประจำตัวจำเป็นต้องใช้ยารักษาเป็นประจำ แต่ยาบางชนิดอาจมีผลข้างเคียงต่อสมรรถภาพทางเพศ เช่น

  • ยาลดความดันโลหิตบางกลุ่ม  ทำให้เลือดไปเลี้ยงอวัยวะเพศน้อยลง
  • ยาลดไขมันบางชนิด  อาจกระทบต่อการผลิตฮอร์โมนเพศ
  • ยาต้านซึมเศร้าและยาคลายกังวล  มีรายงานว่าลดความต้องการทางเพศและทำให้เกิดปัญหาแข็งตัว

ดังนั้น หากสงสัยว่าปัญหา ED เกิดจากยาที่ใช้อยู่ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อปรับชนิดหรือขนาดยา ห้ามหยุดยาเองเด็ดขาด

อวัยวะเพศไม่แข็งตัว

วิธีดูแลและป้องกัน

  1. ตรวจสุขภาพประจำปี คัดกรองเบาหวาน ความดัน ไขมัน และฮอร์โมน
  2. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพิ่มการไหลเวียนเลือดและสมดุลฮอร์โมน
  3. ควบคุมน้ำหนัก ลดความเสี่ยงโรคหัวใจและเบาหวาน
  4. งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป
  5. จัดการความเครียด สุขภาพจิตดีช่วยให้สมรรถภาพทางเพศดีขึ้น

ปัญหาการแข็งตัว

สรุป โรคประจำตัวที่สัมพันธ์กับหย่อนสมรรถภาพทางเพศ

หย่อนสมรรถภาพทางเพศไม่ใช่เพียงปัญหาชั่วคราว แต่บ่อยครั้งเป็นสัญญาณเตือนของโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันสูง โรคหัวใจ ไขมันสูง โรคไต ฮอร์โมนผิดปกติ หรือโรคทางประสาทและจิตใจ การสังเกตอาการและตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพราะการแก้ไขที่ต้นเหตุไม่เพียงช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพเพศ แต่ยังช่วยป้องกันโรคร้ายแรงในอนาคตอีกด้วย

หากสนใจรักษาหย่อนสมรรถภาพทางเพศด้วยวิธีทางการแพทย์ สามารถปรึกษาก่อนตัดสินใจได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านช่องทาง LINE OA หรือ เข้ามาติดต่อที่สาขา คลิกที่นี่เพื่อดูสาขาใกล้บ้าน

author avatar
MD. Suebphong Angchoun

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *