ทำหมันชาย คืออะไร

ทำหมันชาย

การคุมกำเนิดเป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนครอบครัว ซึ่งมีหลากหลายวิธีทั้งแบบชั่วคราวและแบบถาวร โดยการเลือกวิธีการคุมกำเนิดขึ้นกับความต้องการและความเหมาะสม ตลอดจนปัจจัยต่าง ๆ ซึ่งหนึ่งในวิธีที่ปลอดภัยและได้ผลดีที่สุดคือ ทำหมันชาย อย่างไรก็ตาม การผ่าตัดแก้หมัน สามารถทำได้ด้วยการผ่าตัด อัตราความสำเร็จประมาณ 60-80% แต่หากต้องการทำหลังจากทำหมันไปแล้ว 10 ปี อัตราความสำเร็จอาจจะลดลง

รวมถึงในเรื่องค่าใช้จ่ายอาจจะสูงกว่าการผ่าตัดทำหมันปกติ  ดังนั้นคุณควรแน่ใจว่าการทำหมันเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับคุณก่อนที่คุณจะตัดสินใจทำ บทความนี้จะพูดอันดับแรกไปทำความรู้จักกับท่ออสุจิ การทำหมันชายคืออะไร การทำหมันชายเหมาะกับใคร วิธีมาตฐานในการทำหมันชายเป็นอย่างไร ข้อดีของการทำหมันชายดีแค่ไหน และภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นในการทำหมันชาย บทความนี้มีคำครับ

ทำความรู้จักกับท่ออสุจิ

ทำความรู้จักกับท่ออสุจิ

ก่อนอื่นเรามารู้จักท่ออสุจิของคุณผู้ชายกันก่อนครับ ท่อนำอสุจิ (Vas deferens) คือ ท่อที่นำตัวอสุจิ (sperm) ซึ่งถูกสร้างจากลูกอัณฑะ ไปผสมกับน้ำกามหรือน้ำอสุจิ (semen) เข้าสู่ท่อปัสสาวะและหลั่งออกสู่ภายนอกครับ นอกจากนี้ท่อนำอสุจิยังเป็นที่เก็บตัวอสุจิอีกด้วยครับเพราะฉะนั้นการทำหมันก็คือ การตัดหรือผูกท่อนำอสุจิครับ

เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวอสุจิเข้าไปในท่อปัสสาวะในขณะที่มีการหลั่ง เมื่อไม่มีตัวอสุจิก็จะไม่มีการปฏิสนธิขึ้นครับ ตัวอสุจิจะเป็นส่วนประกอบของน้ำอสุจิประมาณ 10-15% ดังนั้นหลังจากการทำหมันชายแล้ว จะยังมีน้ำอสุจิออกมาในปริมาณคงเดิม การทำหมันเป็นการคุมกำเนิดถาวรครับ ผลค่อนข้างดีมากเพราะสามารถคุมกำเนิดได้ถึง 99% เลยครับ

ทำหมันชาย คืออะไร

ทำหมันชาย คืออะไร

การทำหมันชาย (vasectomy) เป็นวิธีคุมกำเนิดแบบถาวรโดยการตัดท่อนำอสุจิเพื่อไม่ให้มีการลำเลียงอสุจิจากอัณฑะไปยังกระเปาะพักเชื้ออสุจิด้านหลังต่อมลูกหมาก ทำให้น้ำอสุจิที่หลั่งออกมาไม่มีตัวอสุจิเหลืออยู่จึงไม่ทำให้เกิดการปฏิสนธิหรือตั้งครรภ์

การทำหมันชายเหมาะกับใคร

การทำหมันชายเหมาะกับใคร

การทำหมันชายเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ประสงค์มีบุตรอีกและไม่ต้องการคุมกำเนิดด้วยวิธีชั่วคราวอื่นๆ อย่างไรก็ตาม การทำหมันชายมีข้อจำกัด เช่น ผู้เข้ารับการทำหมันต้องมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่มีภาวะเลือดออกผิดปกติหรือเลือดแข็งตัวช้า และขณะผ่าตัดไม่มีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หรือการติดเชื้อบริเวณถุงอัณฑะ

วิธีมาตรฐานในการทำหมันชาย

วิธีมาตรฐานในการทำหมันชาย

ปัจจุบันการทำหมันชายใช้วิธี no-scalpel vasectomy (ทำหมันแผลเล็ก) เป็นวิธีมาตรฐาน การระงับความเจ็บปวดจะใช้วิธีการฉีดยาชาเฉพาะที่เป็นหลัก แผลทำหมันมักจะยาวไม่เกิน 1 เซนติเมตรที่บริเวณถุงอัณฑะครับ ใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 30 นาที

หลังทำหมันแล้วควรงดการออกกำลังกาย 2-3 วัน และงดการหลั่งน้ำอสุจิประมาณ 1 สัปดาห์
ผู้ป่วยจะไม่เป็นหมันทันทีนะครับ เพราะยังมีตัวอสุจิค้างอยู่ตามท่อนำอสุจิ เพราะฉะนั้นต้องคุมกำเนิดต่อหลังจากทำหมัน และจะต้องตรวจวิเคราะห์น้ำอสุจิ (semen analysis) เพื่อยืนยันการเป็นหมัน

เวลาที่เหมาะสมสำหรับการตรวจวิเคราะห์น้ำอสุจิ คือ 8-16 สัปดาห์หลังจากการทำหมัน
สำหรับความเชื่อที่ว่าหลั่งน้ำอสุจิประมาณ 20 ครั้งหลังทำหมันแล้วจะไม่มีตัวอสุจิหลงเหลือในน้ำอสุจิอีกอีก พบว่าไม่เป็นจริง มีผู้ป่วยเพียง 44% ที่ตรวจไม่พบตัวอสุจิหลังจากการหลั่งน้ำอสุจิ 20 ครั้ง

อสุจิ

การแปลผลว่าเป็นหมัน คือจะต้องตรวจไม่พบตัวอสุจิในน้ำอสุจิ การตรวจพบตัวอสุจิที่ไม่เคลื่อนที่ (nonmotile sperm) น้อยกว่า 100,000 ตัว/ml สามารถถือว่าการทำหมันประสบความสำเร็จ หากยังตรวจพบตัวอสุจิที่ยังเคลื่อนไหว (motile sperm) จะต้องตรวจวิเคราะห์น้ำอสุจิซ้ำทุก 4-6 สัปดาห์ จนกว่าจะตรวจไม่พบตัวอสุจิ

ข้อดีของการทำหมันชาย

ข้อดีของการทำหมันชาย

  •  การทำหมันชายเป็นวิธีที่ทำได้ง่าย ปลอดภัย ใช้เวลาไม่นาน
  • ใช้เพียงยาชาเฉพาะที่ ไม่จำเป็นต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาล
  • มีประสิทธิภาพสูงในการคุมกำเนิดอย่างถาวร คือมีอัตราล้มเหลวน้อยกว่าร้อยละ 1
  • ค่าใช้จ่ายน้อยกว่าเมื่อเทียบกับการทำหมันหญิงหรือการคุมกำเนิดด้วยวิธีชั่วคราวอื่นๆ
  • ความเสี่ยงหรือภาวะแทรกซ้อนต่ำ
  • ไม่มีผลต่อสมรรถภาพทางเพศ หรือการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเพศชาย เนื่องจากไม่มีการรบกวนเส้นประสาทและการสร้างฮอร์โมนของอัณฑะ ผู้รับการทำหมันจึงสามารถทำกิจกรรมทางเพศได้ตามปกติ กล่าวคือมีความต้องการทางเพศและการแข็งตัวของอวัยวะเพศเหมือนเดิม การหลั่งน้ำอสุจิเป็นไปตามปกติ
  • ไม่ทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย หมดเรี่ยวแรง หรือแก่ก่อนวัย

ความเสี่ยงทำหมันชาย

ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นในการทำหมันชาย

การทำหมันชายเป็นหัตถการที่มีความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนน้อยมาก โดยภาวะแทรกซ้อนที่อาจพบ ได้แก่

  • มีเลือดออก หรือเลือดคั่งในอัณฑะ
  • มีการติดเชื้อบริเวณแผลผ่าตัด ซึ่งแพทย์จะป้องกันด้วยการให้ยาปฏิชีวนะ
  • มีอาการปวดเรื้อรัง อัณฑะบวม มีเลือดออกหรือรู้สึกปวดขณะหลั่งอสุจิ

ทำหมันชายคืออะไร

สรุป ทำหมันชาย คืออะไร

ดังนั้น ก่อนการทำหมันชายควรไตร่ตรองให้ถี่ถ้วนก่อน เพราะหากทำไปแล้ว และต้องการจะมีบุตรเพิ่ม เป็นเรื่องที่จะแก้ไขได้ยาก จะต้องอาศัยปัจจัยหลายด้าน ทั้งความชำนาญของแพทย์ อุปกรณ์ เครื่องมือ ค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น รวมทั้งสุขภาพ อายุของท่านด้วย ทั้งนี้หลังจากการทำหมัน 2-3 เดือน แพทย์จะนัดมาทำการตรวจดูน้ำเชื้ออสุจิ ว่ายังมีตัวอยู่หรือไม่ ถ้าไม่มีจะเป็นการคุมกำเนิดที่ถาวรได้ หากสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมผ่านช่องทาง Line ของทางคลินิกหมอเบียร์ได้เลยครับ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *