มารู้จักกับ Cialis Tadarafil ยาที่ใช้รักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ

Erectile Dysfunction คือ อาการที่น้องชายไม่สามารถแข็งตัวได้อย่างเต็มที่ ขณะมีเพศสัมพันธุ์ เป็นอาการที่สามารถเกิดกับผู้ชายได้ทุกเพศทุกวัย ซึ่ง “Cialis Tadarafil” เป็นตัวยาที่ใ\ช้ในการรักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ โดยไม่ได้ออกฤทธิ์โดยตรงที่ทำให้น้องชายแข็งตัว แต่จะปรับเปลี่ยนการตอบสนองของร่างกายในเรื่องของการกระตุ้นทางเพศ โดยการไปเพิ่มไนตริกออกไซต์ ทำให้กล้ามเนื้อในองคชาตคลายตัว ซ่งช่วยให้การไหลเสวียนของเลือดในบริเวณองคชาตดีขึ้น

ปริมาณยา

ปริมาณที่เหมาะสมในการใช้ยา Cialis Tadarafil

โดยทั่วไปแล้ว ปริมาณที่แนะนำสำหรับการทานยา “ทาดาลาฟิล” ตือ จะแนะนำให้ทานทานยาในปริมาณ 10 มิลลิกรัว และอาจปรับขนาดเพิ่มขึ้นเป็น 20 มิลลิกรัม ในกรณีที่หย่อนน้อย หรือคนที่มีอาการแพ้หากทานยาโดสสูงๆ แนะนำให้ทาน 5 มิลลิกรัม ซึ่งในบางกรณีสามารถทานยาทาดาลาฟิลปริมาณ 5 มิลลิกรัมนี้ในการรักษาโรคต่อมลูกหมากโต หรือคนที่ต้องทานยารักษาโรคอื่นๆร่วมด้วย หรือในผู้ป่วยบางรายสามารถปรับทานยาให้เหลือเพียง 2.5 มิลลิกรรมได้

ระยะเวลาที่ยาออกฤทธิ์

ระยะเวลาที่ยาเริ่มออกฤทธิ์

โดยทั่วไปยา Cialis Tadalafil ใช้เวลาในการออกฤทธิ์ประมาณ 15 – 45 นาที หลังการรับประทานยาเข้าไป ซึ่งยาขนาด 5 มิลลิกรัม เป็นปริมาณที่สามารถทานได้ทุกวัน เหมาะสำหรับคนที่ต้องการมีเพศสัมพันธ์ในเวลาไหนก็ได้ แต่หากคนที่มีเพศสัมพันธ์เป็นครั้งคราว สามารถรับประทานยาปริมาณ 10 – 20 มิลลิกรัม ก่อนมีเพศสัมพันธ์อย่างน้อย 30 นาที

ข้อควรระวังในการใช้ยา

เนื่องจากกลไกการออกฤทธิ์ของยาตัวนี้ มีผลต่อการขยายของหลอดเลือดบริเวณองคชาต จึงอาจทำให้หลอดเลือดส่วนอื่นๆของร่างกายขยายได้ จึงจำเป็นต้องมีข้อห้ามในการใช้ยากลุ่มนี้ในผู้ป่วยโรคหัวใจที่ทานยาขยายหลอดเลือดในกลุ่มในเตรท (Nitrate) ทุกตัว เพราะยาสองกลุ่มนี้หากใช้ร่วมกัน จะทำให้หลอดเลิอดมีการขยายตัวมากกว่าปกติ เป็นสาเหตุทำให้เกิดภาวะความดันโลหิตต่ำเข้าสู่ภาวะช็อกและอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

 

สรุปการใช้ยา Cialis Tadarafil

ก่อนใช้ยา Cialis Tadalafil ควรปรึกษาแพทย์ก่อน เนื่องจากยาตัวนี้เป็นยาชนิดควบคุมพิเศษ ไม่แนะนำให้หาซื้อทานเอง เพราะต้องใส่ใจเรื่องผลข้างเคียง โดยเฉพาะคนไข้ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงโรคหัวใจและความดัน นอกจากนี้ยาที่ขายทั่วไปในอินเทอร์เน็ตอาจเป็นยาปลอม ซึ่งหากทานเข้าไปนอกจากไม่ได้ผลแล้วยังอาจเกิดอันตรายได้อีกด้วย หรือสามารถทักสอบถามหมอเบียร์ได้ที่ Line

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *