การกินยาเพื่อช่วยรักษาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่นิยมกัน เนื่องจากสะดวก และไม่ต้องเจ็บตัวอีกด้วย โดยตัวยาที่ได้รับการรับรองและเป็นตัวเลือกที่ดี ที่เราอยากแนะนำก็คือ “Cialis” ซึ่งภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ เป็นอาการที่น้องชายแข็งตัวได้ไม่เต็มที่ หรืออ่อนตัวขณะมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งเป็นปัญหากวนใจคุณผู้ชายหลายคน แต่ไม่ต้องกังวลไป เนื่องจากได้มีการรักษามากมายในปัจจุบันที่ช่วยแก้อาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศได้ แต่หลายคนอาจจะกำลังสงสัยว่าควรเลือกซื้อขนาดไหนดี ซึ่งมีทั้ง 20mg และ 5mg เรามาดูข้อแตกต่างของทั้งสองขนาดกัน
Cialisช่วยรักษาโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศได้อย่างไร
Cialis เป็นชื่อทางการค้าของยา Tadalafil “ทาดาลาฟิล” ซึ่งจะใช้เป็นยารักษาโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ โดยจะมีกลไกในการออกฤทธิ์ ที่ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อของหลอดเลือด การทำงานคล้ายไวอากร้า และช่วยยับยั้งเอนไซม์ PDE5 ที่เพิ่มการไหลเวียนเลือดไปอวัยวะเพศชาย เพื่อให้คงการแข็งตัวของอวัยวะเพศ จึงนำมาใช้รักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศหรือ “นกเขาไม่ขัน” และอาจใช้รักษาอาการของโรคต่อมลูกหมากโตและความดันโลหิตสูงในปอดได้อีกด้วย
ขนาด 20mg vs 5mg ต่างกันอย่างไร
สำหรับ ยาทาดาลาฟิล ในไทยจะสั่งจ่ายยากันอยู่สองแบบ โดยต่างกันที่ความแรง คือ ขนาด 20 มิลลิกรัม กล่องละ 4 เม็ด และ ขนาด 5 มิลลิกรัม กล่องละ 28 เม็ด ซึ่งมีประสิทธิภาพในการรักษาที่ดีเหมือนกัน เพียงแต่คนที่ต้องกินยาเพื่อรักษาโรคอื่นๆด้วยจะแนะนำให้ใช้ขนาด 5 มิลลิกรัม เพื่อเลี่ยงการโอเวอร์โดส (Overdose) จึงออกแบบขนาด 5 มิลลิกรัมขึ้นมาให้คนไข้สามารถทานได้ทุกวัน เพื่อรักษาอาการหย่อนสมรรถภาพ
การใช้ยา Cialis ในแต่ละคน
- เพื่อรักษาอาการ ต่อมลูกหมากโต ต้องรับประทานยานี้ตามแพทย์สั่ง โดยทั่วไปจะรับประทานวันละ 1 เม็ด ต่อเนื่องไปจนกว่าอาการโรคต่างๆ จะดีขึ้น
- เพื่อรักษา อาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (ED) แพทย์จะประเมินอาการของผู้ป่วยก่อน ถึงจะสั่งจ่ายยาขนาดที่เหมาะสมที่สุดให้ โดยแยกเป็นสองวิธี ดังนี้
- วิธีแรกคือการกินยา เฉพาะเมื่อต้องการมีเพศสัมพันธ์ โดยทั่วไปจะให้รับประทานขนาด 20mg อย่างน้อย 30 นาทีก่อนการมีเพศสัมพันธ์ ผลของยา tadalafil ที่มีต่อความสามารถในการมีเพศสัมพันธ์อาจยาวนานถึง 36 ชั่วโมง
- การรับประทานยา tadalafil ขนาด 5mg เป็นประจำทุกวัน วันละ 1 ครั้ง จะทำให้มีเพศสัมพันธ์ในเวลาไหนก็ได้ ในช่วงระหว่างการทานยา
ผลข้างเคียงจากการใช้ยา
- ปวดศีรษะ
- ปวดท้อง
- คลื่นไส้ อาเจียน
- ท้องอืด
- ปวดหลัง
- ปวดกล้ามเนื้อ
- คัดจมูก
- หน้าแดง
- หรือเวียนศีรษะ
หากอาการดังกล่าวเกิดขึ้นหลังกินยา และไม่มีท่าทีว่าจะดีขึ้น ควรรีบพบแพทย์ทันที
- อาจทำให้การมองเห็นบกพร่องเฉียบพลัน หรืออาการตาบอดข้างเดียวหรือทั้งสองข้าง ซึ่งเป็นภาวะที่ร้ายแรงควรหยุดยาและรีบพบแพทย์ทันที แต่โอกาสในการเกิดมีน้อยมาก
หลายคนเห็นผลข้างเคียงของการทานยาแล้วรู้สึกกลัวหรือเป็นกังวลขึ้นมา ซึ่งบอกเลยว่าไม่ต้องกลัวหากซื้อยาภายใต้ความดูแลของแพทย์และเภสัช โดยแพทย์จะประเมินอาการก่อนจ่ายยาให้ทุกครั้ง เพราะการมีโรคประจำตัวบางโรคทำให้ไม่สามารถทานยาชนิดนี้ได้นั่นเอง
สรุปการใช้ยา Cialis
อย่างไรก็ตาม ก่อนคิดจะใช้ยาควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัช ไม่ควรซื้อมาทานเอง เนื่องจากเสี่ยงที่จะถูกหลอก เพราะสมัยนี้ยาปลอมมีอยู่ทั่วไปบนโลกออนไลน์ และอาจเสี่ยงที่จะเกิดการแพ้ในบางรายได้ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัย สามารถปรึกษาหมอเบียร์เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้
***ยาตัวนี้เป็นยาควบคุมพิเศษ สั่งจ่ายโดยหมอเท่านั้น***
ปล.ระวังยาปลอมที่มีขายตามโลกอินเทอร์เน็ต ไม่อยากถูกหลอก ปรึกษาหมอเบียร์ฟรี 24 ชั่วโมง หรือดูบริการอื่นๆเพิ่มเติม คลิก
ปัญหาหนังหุ้มปลาย ขลิบกับหมอเบียร์ช่วยคุณได้
เรื่องที่ทำเอาค
หมอเบียร์ นายแพทย์สืบพงษ์ เอ่งฉ้วน เจ้าพ่อเรื่องกระจู๋
ถ้าพูดถึงเรื่อง
หมอเบียร์ กับเส้นทางสู่การเป็นหมอกระจู๋
บทความนี้ เราจะ