การฝังมุก ความหมายและประโยชน์

การฝังมุกคืออะไร ใช่การใช้ไข่มุกที่ได้จากหอยฝังลงไปหรือเปล่า หลายคนยังคงสงสัยหรืออาจจะยังไม่รู้จัก บทความนี้จะพูดถึงความหมายของ การฝังมุก ประวัติการฝังมุกที่มีในไทย ข้อดีข้อเสีย และพูดถึงการฝังมุกในสไตล์ของหมอเบียร์ หมอที่ขึ้นชื่อในเรื่องของน้องชาย เพื่อไขข้อข้องใจหรือเพื่อประกอบการตัดสินใจสำหรับคนที่ต้องการจะฝังมุกเรามาอ่านบทความนี้ไปพร้อมๆกัน

ฝังมุก คืออะไร

การฝังมุก (Pearling) คือ การนำวัสดุที่มีลักษณะกลมๆ ฝังเข้าบริเวณอวัยวะเพศชาย ซึ่งวัสดุที่ใช้ในการฝังมีหลายแบบ เช่น เม็ดที่ทำมาจากแก้ว เม็ดที่ทำมาจากพลาสติก ซิลิโคน หรือเม็ดไข่มุก เพื่อเพิ่มผิวสัมผัสขณะมีเพศสัมพันธ์ และกระตุ้นจุดเสียวของคู่นอน ทำให้คู่นอนของเรามีความสุข ช่วยเพิ่มให้การมีเพศสัมพันธ์มีลูกเล่นมากขึ้น แต่ควรคำนึงไว้เสมอว่า

การฝังมุกคือการนำสิ่งแปลกปลอมเข้าไปอยู่ในร่างกาย เรื่องความสะอาดและความปลอดภัยเป็นสิ่งที่เราห้ามละเลยเด็ดขาด หากสนใจอยากฝังมุกควรทำกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เม็ดมุกที่จะฝังต้องสะอาดและปลอดเชื้อ เพื่อหลีกเลี่ยงแผลติดเชื้อจนพาไปสู่อวัยวะเพศเน่าได้

ประวัติ การฝังมุก ที่มีในไทย

ย้อนกลับไปในสมัยอยุธยา ได้มีบันทึกที่ถูกบันทึกโดย “หม่าฮวน” ที่เป็นล่ามภาษาอารบิกในสมัยนั้น(พ.ศ. 1946 – 1968) ได้บันทึกเรื่องการตกแต่ง “เครื่องเพศ” ของผู้ชายในสมัยอยุธยาว่า “เมื่อชายหนุ่มมีอายุยี่สิบปี พวกเขาจะตัดหนังหุ้มองคชาตออก แล้วใช้มีดคมรูปร่างอย่างใบหอมกรีดผ่าผิว และยัดลูกดีบุกโหลหนึ่งเข้าไปใต้ผิวหนัง ปิดไว้ และเยียวยาด้วยสมุนไพร รอกระทั่งแผลหายสนิท จึงได้เดินไปไหนมาไหนได้”

จะเห็นได้ว่าการฝังมุกเป็นที่นิยมมากในสมัยอยุธยา ซึ่งจะมีคนที่รับจ้างทำการผ่าตัด และทำลูกปัดดีบุกนี้ขึ้นมา จนกลายเป็นอาชีพหนึ่งในสมัยนั้น หากเป็นการฝังมุกในชนชั้นสูง จะใช้เป็นทองคำกลวงใส่เม็ดทรายข้างใน ทำให้เวลาเดินจะได้ยินเสียงกรุ๊งกริ๊ง จนกลายเป็นว่าชายที่มีลูกปัดหรือมุกฝังอยู่เป็นชายที่มีฐานะและมีเสน่ห์ ส่วนใครที่ไม่ได้ฝังกลับกลายเป็นพวกชั้นต่ำไปโดยปริยาย

คลิกเพื่อดูรีวิวฝังมุก

ข้อดีและข้อเสียของการฝังมุก

การฝังมุกเป็นเรื่องของรสนิยมทางเพศของแต่ละบุคคล ไม่ได้มีประโยชน์ในเรื่องของทางการแพทย์ ซึ่งการฝันมุกมีข้อดีในการมีเพศสัมพันธ์คือช่วยเพิ่มความสุข และมีข้อดีในด้านอื่นๆอีก ดังนี้

• ในเรื่องของความสวยงาม เนื่องจากการฝังมุกมีวัสดุที่ใช้รวมถึงขนาดที่แตกต่างกัน ซึ่งเป็นความชอบของแต่ละบุคคล ทำให้ฝะงไปแล้วมีความมั่นสนขณะมีเพศสัมพันธ์เพิ่มมากขึ้น
• ช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ เมื่อฝังแล้วผู้ฝังจะมีความมั่นใจและมีความสุขในการมีเพศสัมพันธ์มากขึ้น และเมื่อมีการขยับน้องชายไม่ว่าจะช่วยตัวเอง หรือมีเพศสัมพันธ์ การเคลื่อนไหวของวัสดุที่ใช้ฝังจะส่งผลให้ช่วยกระตุ้นอารทางเพศเพิ่มมากขึ้นตามมา
• ช่วยให้คู่นอนถึงจุดสุดยอดได้มากขึ้น ซึ่งในข้อนี้จะขึ้นอยู่กับความชอบของอีกฝ่ายด้วยเช่นกัน เมื่อวัสดุที่ใช้ฝังสัมผัสกับทางช่องคลอดหรือช่องทวารหนัก จะช่วยไปกระตุ้นเส้นประสาทข้างในให้คู่นอนของเราถึงจุดสุดยอดได้ แต่อย่าลืมการช่วยเล้าโลม และกระตุ้นจุดอื่นๆร่วมด้วย เนื่องจากจุดที่ทำให้รู้สึกดีไม่ได้มีเพียงแค่ตรงนั้นเสมอไป เช่น หัวนม หลังใบหู การลูบไล้ร่างกาย และการจูบ เป็นต้น

ข้อเสียหรือข้ออันตรายที่เกิดขึ้นจากการฝังมุกบางประการ ที่อาจส่งผลกระทบให้กับตัวผู้ทำและคู่นอน มีดังนี้

• อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บที่อวัยวะเพศของคู่นอนได้
• อาจเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์
• อาจทำให้ติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ
• อาจเกิดการติดเชื้อในบริเวณที่ฝังมุกจนกลายเป็นผลเสียในระยะยาวได้
• มีความเสี่ยงที่เนื้อเยื่อจะปฏิเสธวัสดุที่ใช้ฝัง จนเกิดการอักเสบติดเชื้อ หากร้ายแรงมาก อาจถึงขึ้นต้องตัดอวัยวะเพศเลยทีเดียว

ฝังมุกสไตล์หมอเบียร์

การฝังมุกสไตล์หมอเบียร์จะเป็นการฝังในจุดที่เหมสะสม และคิดแล้วว่าจุดไหนจะโดนจุดเสียวของฝ่ายหญิง แต่ที่สำคัญเลยก็คือ ก่อนฝังมุกหมอเบียร์จะแนะนำให้ทำการขลิบก่อน เนื่องจากการฝังมุกแบบไม่ขลิบจะทำให้ตำแหน่งของมุกเคลื่อนได้ จึงเกิดการที่มุกไปเบียดในช่องคลอดทำให้รู้สึกเจ็บได้ นอกจากนี้ยังพบปัญหาการติดเชื้อหลังทำอีกด้วย

มุกที่หมอเบียร์แนะนำให้ฝังจะมีขนาด 4-8 mm ซึ่งต้องคำนึงถึงความเหมาะสมของขนาดอวัยวะเพศของแต่ละคน อาจจะไม่มีขนาดที่ตายตัวขึ้นอยู่กับความชอบและขนาด ส่วนขนาดเบสิคที่กำลังดีแนะนำเป็นขนาด 5-6 mm ที่สำคัญในการฝังมุกนอกจากขนาดเลยอีกอย่างนึงคือตำแหน่งในการฝัง

หมอเบียร์จะใช้วิธีน้อยแต่มาก คือ ฝังมุกให้น้อยที่สุด แต่ใช้งานได้ดีและตรงจุดที่สุด ตำแหน่งที่หมอเบียร์วาง จะเป็นตำแหน่งที่สามารถกระตุ้นจีสปอร์ตได้ทั้งข้างหน้า ข้างๆ และข้างหลัง จึงทำให้ฝ่ายหญิงเสียว และถึงจุดสุดยอดได้ง่ายขึ้นนั่นเอง ซึ่งมุกที่ดีควรมีความยืดหยุ่นได้ มุกที่หมอเบียร์แนะนำคือมุกที่ทำจากซิลิโคนจะดีที่สุด ไม่ใช่การทำมั่วๆหรือเอาอะไรมาใส่ก็ได้ไม่อย่างนั้นปัญหาแรกที่จะตามมาเลยคือเจ็บจนต้องมาเอาออก เท่ากับว่าที่ทำไปไม่มีประโยชน์อะไรเลย

สรุปแล้ว การฝังมุก ดีหรือไม่

การฝังมุกหลายๆคนอาจจะกลัวหรือชอบ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรสนิยมทางเพศแต่ละคน เราควรเคารพในความชอบของคนอื่น จะเห็นได้ว่าการฝังมุกมีมานานมากแล้ว ซึ่งพบบันทึกการฝังมุกในไทยตั้งแต่สมัยอยุธยา ในสมัยนั้นเรียกได้ว่าเป็นที่นิยมกันอย่างมาก จนมีมาจนถึงปัจจุบัน

การฝังมุกมีข้อดีคือทำให้มีความสุขในการมีเพศสัมพันธ์มากขึ้น แต่มีข้อเสียคือหากทำกับสถานที่ที่ไม่น่าเชื่อถือ หรือวางผิดตำแหน่ง อาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้ แล้วถ้าวางตำแหน่งในการทำที่ไม่ดี จากที่จะมอบความสุขให้คู่นอนกลายเป็นสร้างความเจ็บแทน หากท่านไหนสนใจอยากฝังมุกแนะนำให้ทำกับคลินิกที่ปลอดภัย และได้มาตรฐานน่าเชื่อถือจะดีกว่า ติดต่อคลินิก หรือสามารถสอบถามการฝังมุกกับหมอเบียร์ได้ที่ Line